GTF สารอาหารงาวิจัยทางการแพทย์
ระดับนานาชาติหลายรางวัล
นวัตกรรมฟื้นฟูเซลล์
ด้วยสารอาหารแห่งศตวรรษที่ 21
นำมาใช้ฟื้นฟูภาวะไตวายเรื้อรังได้ผลดี
ช่วยฟื้นฟูไตเสื่อมระยะ 1-4
เห็นผลดีขึ้นในหนึ่งเดือน
เห็นผลจากผู้ใช้จำนวนมาก
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจเกิดในแต่ละบุคคล)
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจเกิดในแต่ละบุคคล)
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจเกิดในแต่ละบุคคล)
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปแต่ละบุคคล
(โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ดูแลเว๊บไซด์)
ก่อนทาน GT&F พบไตเสื่อมระดับ 4.3 หลังทาน GT&F ไตเสื่อมลดเหลือระดับ 2.2 (คุณยายเสี้ยน คำโหลน)
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจเกิดในแต่ละบุคคล)
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจเกิดในแต่ละบุคคล)
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจเกิดในแต่ละบุคคล)
ก่อนใช้ : คุณหิรัญ อิ่นคำ ที่อยู่ : ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ป่วยด้วยโรคเบาหวาน และความดัน จนทำให้ไตวาย และได้ฟอกไตทางช่องท้อง โดยทำเองที่บ้านวันละ 3 ครั้งๆละ 30 นาที ทานอาหารได้น้อย และมีอาการเหนื่อย
หลังใช้ : หลังจากทาน gtf แบบแคปซูล วันละ 3 มื้อๆ ละ 2 แคปซูล ผู้ป่วยมีอาการสดชื่นขึ้นมาก และทานอาหารได้มากขึ้น
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจเกิดในแต่ละบุคคล)
หยุดไตวายเรื้อรังวันนี้...ก่อนสายเกินแก้
GTF ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
ราคา 2,300 บาท เก็บเงินปลายทาง
แบบผง 1 กล่อง บรรจุ 30 ซอง
แบบแคปซูล 1 กล่อง บรรจุ 60 แคปซูล
ทานได้ 15-30 วัน
เห็นผลบำบัดใน 15-30 วัน
สนใจสั่งซื้อติดต่อ
โทร.089-6942954 Line ID : gtfhealthy
แอดไลน์คลิก:https://line.me/R/ti/p/%40gtfhealthy
คลิก: Facebook https://www.facebook.com/ThaiGtfKhonKaen
สาร GTF ในนมผง GT&F ช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยไตวายเรื้อรังได้อย่างไร
1.ช่วยควบคุมสารอาหารต่างๆ ได้แก่ น้ำตาล กรดอมิโน และกรดใขมัน ให้เข้าสู่เซลล์ได้ตามปกติ และทำให้การเผาผลาญสารอาหารเหล่านี้เป็นไปตามปกติ ทำให้เซลล์ต่างๆได้รับพลังงานตามปกติ ทำให้ช่วยฟื้นฟูสภาพแก่เซลล์ต่างๆได้ ทำให้เซลล์ของไตแข็งแรงขึ้น
2.การที่สารอาหาร GTF สามารถควบคุมการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ให้เป็นปกติได้ ทำให้ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป ไตก็ไม่ต้องทำงานหนักเพื่อกรองน้ำตาลกลับสู่กระแสเลือดอีกต่อไป
3.เมื่อใขมันที่อยู่ในเส้นเลือดถูกดูดซึมเข้าสู่เซลล์ได้ตามปกติ จึงทำให้ปริมาณใขมันในเลือดลดลง เลือดก็ลดความหนืดข้น หัวใจก็ทำงานน้อยลง เป็นผลให้ความดันโลหิตลดลง ทำให้ไตทำงานเบาลง
4.เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ความดันเลือดลดลง ทำให้อาการแทรกซ้อนอื่นๆก็ลดลง ความจำเป็นในการใช้ยาเพื่อควบคุมอาการต่างๆก็ลดลง จึงสามารถลดปริมาณการใช้ยาลงได้ ทำให้ไตไม่ต้องทำงานหนักเพื่อกรองยาที่หมดสภาพออกนอกร่างกาย ช่วยลดภาวะไตเสื่อมได้อีกทางหนึ่ง
5.จากองค์ประกอบทั้งหลายที่ส่งเสริมกันนี้ จึงทำให้ภาวะไตเสื่อมค่อยๆลดระดับลงได้
6.และหากผู้ป่วยที่ไตวายและต้องฟอกไตแล้ว การใช้สาร GTF ยัง ทำให้เลือดสะอาดขึ้น จึงช่วยให้ลดความถี่ในการฟอกไตได้ และช่วยลดอาการเหนื่อยเพลียของผู้ป่วยได้ ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีก่วาการใช้ยาและการฟอกไตเพียงอย่างเดียว
โรคไตวายเรื้อรัง
ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะเป็นผลเสียต่ออวัยวะในร่างกายรวมทั้งไต โรคเบาหวานเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไตเสื่อมหรือไตวายมากที่สุด ผู้ป่วยช่วงแรกจะไม่มีอาการอะไรเลยจนกระทั้งไตเสื่อมมากจึงจะเกิดอาการของไตวาย โรคเบาหวานทำให้ไตมีการทำงานมากขึ้นในที่สุดก็จะมีการสูญเสียสารอาหาร และโปรตีนในปัสสาวะ เบาหวานเป็นสาเหตุที่สำคัญของโรคไตวายเรื้อรังเนื่องจาก ผู้ป่วยเบาหวานมีชีวิตยาวขึ้น มีอุบัติการณ์ของเบาหวานเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะชนิดที่สอง ร้อยละ20-30 ของผู้ป่วยเบาหวานพบว่ามีไข่ขาวในปัสสาวะ แต่มีเพียงร้อยละ 20ที่จะกลายเป็นโรคไต ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่หนึ่งถ้ามี ใข่ขาวในปัสสาวะ แล้วไม่ได้รักษาร้อยละ 50 จะเป็นโรคไตวายเรื้อรังใน 10 ปี มากกว่าร้อยละ 75ในเวลา 20 ปี โดยโรคเบาหวานเกี่ยวข้องกับเบาหวานใน 3 สาเหตุคือ
1.การเป็นเบาหวานทำให้เซลล์ต่างๆรวมทั้งเซลล์ของไตขาดพลังงานอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เซลล์เสื่อมสภาพการทำงานต่างๆก็ทำได้ไม่ดีดังเดิม ทำให้กลไกของไตเสื่อมไปด้วย
2.การที่ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอยู่ตลอดจะทำให้ไตทำงานหนักอยู่ตลอดจนเกิดการเสื่อมสภาพ เพราะไตมีหน้าที่กรองสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้คงไว้ในร่างกายให้มากที่สุด และน้ำตาลก็เป็นสารอาหารที่ดีดังนั้นไตจึงต้องทำงานหนักอยู่ตลอดหากน้ำตาลในเลือดสูง
3.การที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องใช้ยาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และรักษาอาการแทรกซ้อนต่างๆอยู่ตลอดทุกวัน ไตซึ่งมีหน้าที่กำจัดของเสียต่างๆรวมทั้งยาที่หมดสภาพก็ต้องทำงานหนักอยู่ทุกวันจึงทำให้ไตล้าและเสื่อมสถาพได้เช่นเดียวกัน
เบาหวานลงไต
ไตเป็นอวัยวะที่มีรูปร่างคล้ายถั่ว มี 2 ข้าง อยู่ทางด้านหลังนอกช่องท้อง และมีหน้าที่ 2 ประการใหญ่ๆคือ
- ควบคุมระดับเกลือแร่ต่างๆให้เป็นปกติ และขับของเสียออกจากร่างกายทางปัสสาวะ
- สร้างฮอร์โมนและสารต่างๆ ฮอร์โมนที่สำคัญคือเออริโทรพอยเอติน ซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นไขสันหลังให้สร้างเม็ดเลือดแดง
ไตแต่ละข้างประกอบด้วยหน่วยไตประมาณ 1 ล้านหน่วย แต่ละหน่วยประกอบด้วยตัวกรองและหลอดไต
ในแต่ละวันมีเลือดไหลเวียนผ่านไตประมาณ 180 ลิตร และหน่วยไตจะกรองและคัดหลั่งสารต่างๆ และขับออกมาเป็นปัสสาวะวันละประมาณ 1 ลิตรคนเราสามารถมีชีวิตโดยปกติได้โดยอาศัยไตเพียงข้างเดียว ภาวะไตวายจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีความผิดปกติในการทำงานของไตทั้งสองข้าง โดยสามารถแบ่งเป็น 2 แบบคือ
1.ไตวายเฉียบพลัน
คือเกิดขึ้นเพียงระยะเวลาหนึ่งแต่เมื่อแก้ไขที่ต้นเหตุได้อาการนี้ก็หายไปได้ สาเหตุเกิดจากภาวะที่เลือดหรือสารน้ำไปเลี้ยงไตลดลง การได้รับยาหรือสารพิษที่เป็นพิษต่อไต
2.ไตวายเรื้อรัง
ถึงแม้จะทำการแก้ไขที่ต้นเหตุแล้วก็จะยังมีการเสื่อมของไตมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนนำไปสู่ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายในที่สุด โดยสาเหตุที่พบบ่อยได้แก่ โรคเบาหวาน การอักเสบเรื้อรังของตัวกรองของไตหรือหลอดไต โรคไตจากความดันโลหิตสูง การอุดตันของทางเดินปัสสาวะ(จากนิ่ว ต่อมลูกหมาก) โรคถุงน้ำโป่งพองในไตแต่กำเนิด โรคเกาต์ โรคไตซึ่งเกิดจาการรับประทานยาแก้ปวดเป็นระยะเวลานาน และโรคเอสแอลอีโดยการตรวจสอบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นที่ไตหรือไม่สามารถตรวจสอบได้จากตัวชี้วัด 2 ตัว คือ
1.ค่าปริมาณยูเรียไนโตรเจนในเลือด หรือ BUN (Blood urea nitrogen) โดยค่านี้แสดงถึงระดับของเสียที่เกิดจากการย่อยสลายโปรตีนและคั่งค้างในกระแสเลือด ค่าปกติคือ 10-20 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ดังนั้นหากไตทำงานได้แย่ลงก็จะทำให้ค่า BUN มีค่าเพิ่มขึ้น
2.ค่าปริมาณสารครีเอตินีน ซึ่งแสดงการทำงานของไต ถ้าการทำงานของไตลดลงค่าครีเอตินีนจะสูงขึ้นกล่าวโดยรวมหากการทำงานของไตแย่ลงตัวชี้วัดทั้งสองจะมีค่าสูงขึ้น แต่ค่าครีเอตินีนนั้นจะบอกการทำงานของไตได้เด่นชัดกว่าค่า BUN
การดำเนินไปของโรคไตจากเบาหวาน
โดยปัจจุบันเบาหวานเป็นสาเหตุหลักในการเกิดภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย โดยมีการส่งผลต่อไตเป็น 5 ระยะดังนี้
ระยะที่ 1. เกิดขึ้นทันทีเมื่อเริ่มเป็นเบาหวาน เป็นระยะที่ไตมีขนาดใหญ่ขึ้น เลือดไปเลี้ยงไตมากขึ้น แต่ยังไม่มีอาการแสดงของโรคในระยะนี้
ระยะที่ 2. เกิดภายหลังจากเป็นเบาหวานแล้วประมาณ 2 ปี โดยเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิสภาพที่ตัวกรองไต แต่ก็ยังไม่แสดงอาการ
ระยะที่ 3. เกิดภายหลังจากเป็นเบาหวานแล้ว 10-15 ปี โดยอาการที่พบคือเริ่มตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะในปริมาณเล็กน้อย และมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี โดยหากมีภาวะความดันโลหิตสูงร่วมด้วยจะยิ่งทำให้เกิดการเสื่อมของไตเร็วขึ้น
ระยะที่ 4. เกิดหลังจากเป็นเบาหวานนาน 15-20 ปี เริ่มตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะมากกว่า 0.5 กรัมต่อวัน และพบการเสื่อมของไตอย่างต่อเนื่องโดยจะมีอัตราการเสื่อมเร็วกว่าคนปกติถึง 10 เท่า และหากไตทำงานได้เพียงร้อยละ 20 ของภาวะปกติ จะมีของเสียคั่งค้างมากจนทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น เบื่ออาหาร คลื่นใส้ อาเจียน ไม่มีแรง รู้สึกหนาวง่าย และจะมีอาการเหล่านี้มากขึ้นหากผู้ป่วยมีอาการซีดเนื่องจากปริมาณเม็ดเลือดแดงต่ำลง
ระยะที่ 5.เป็นไตวายระยะสุดท้าย การทำงานของไตลดลงเหลือไม่ถึงร้อยละ 5 ของภาวะปกติ มีของเสียคั่งอยู่ในร่างกายจำนวนมาก ปัสสาวะลดลงจนเกือบไม่มี ผู้ป่วยอาจซึมจนไม่รู้สึกตัว และเสียชีวิตในเวลาไม่นานหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม เช่นการล้างไต
การตรวจสอบความเสื่อมของไตว่าอยู่ในระยะใด
ในอันดับแรกสามารถประมาณได้จากระยะเวลาที่ป่วย แต่ผู้ป่วยบางรายอาจไม่ทราบแน่ชัดว่าตัวเองเริ่มป่วยมานานแค่ไหนเพราะไม่มี การตรวจร่างกายอย่างต่อเนื่องทำให้ไม่ทราบระยะเวลาที่แน่นอน
- อาการที่แสดงว่าไตเสื่อมอยู่ในระยะที่ 3 แล้วจะทราบได้โดยการตรวจปัสสาวะ โดยจะเริ่มแสดงอาการด้วยการมีโปรตีนแอลบูมินรั่วออกมาทางปัสสาวะในปริมาณน้อย โดยต้องตรวจด้วยวิธีพิเศษเรียกภาวะนี้ว่า ไมโครแอลบูมินยูเรีย
-เมื่อเริ่มเข้าสู่ไตเสื่อมระยะที่ 4 จะมีโปรตีนรั่วออกมามากขึ้นจนสามารถตรวจพบโดยวิธีปกติ หากมีการเสื่อมมากขึ้นจนไตทำงานได้น้อยกว่าร้อยละ 50 ของภาวะปกติ จะสามารถตรวจพบได้อย่างชัดเจนจากค่า BUNและค่าครีเอตินีน ผู้ป่วยที่มีไตเสื่อมในระยะที่ 4 และ 5 ควรได้รับการตรวจเลือดเพื่อสังเกตการณ์ทำงานของไตเป็นระยะๆ
การรักษา
การบำรุงร่างกายสำหรับผู้มีอาการเสื่อมของไตนั้นมีปัจจัยที่ต้องคำนึงหลายอย่างดังนี้
1.การควบคุมเบาหวานโดยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติโดยเคร่งครัดนั้น มีความความสำคัญต่อการรักษาในเกือบทุกระยะ เพราะหากควบคุมระดับน้ำตาลให้ต่ำอยู่ตลอดไตก็จะทำงานน้อยลงโอกาสเสื่อมก็ลดลง
2.การควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติก็เป็นตัวช่วยชะลออาการเสื่อมของไตช้าลงได้ เหตุผลก็เช่นเดียวกับข้อ คือทำให้ไตทำงานน้อยลง
3.การควบคุมปริมาณโปรตีนที่รับประทานในแต่ละวัน เพราะปริมาณโปรตีนที่สูงจะทำให้เลือดไปเลี้ยงที่ไตมากขึ้นทำให้ไตทำงานหนัก และปริมาณโปรตีนยังก่อให้เกิดการคั่งของยูเรียในเลือดมากขึ้น ทำให้เกิดอาการคลื่นใส้ อาเจียน ทำให้ไตที่เสื่อมอยู่แล้วมีการเสื่อมมากขึ้น โดยผู้ป่วยเบาหวานที่มีโรคไตควรรับประทานโปรตีนต่ำกว่าคนปกติ และผู้ป่วยที่มีอาการไตเสื่อมควรรับประทานโปรตีนในขนาดไม่เกิน 0.6 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน
ผู้ป่วยไตเสื่อมระยะที่ 4 มักมีอาการซีดจากการสร้างเม็ดเลือดแดงลดลง จึงควรเสริมด้วยธาตุเหล็กและกรดโฟลิค การให้ธาตุเหล็กโดยการรับประทานมักไม่เพียงพอ เนื่องจากการดูดซึมทางลำไส้ของผู้ป่วยมักผิดปกติ ทำให้ดูดซึมธาตุเหล็กได้น้อย อาจจำเป็นต้องให้ธาตุเหล็กทางเส้นเลือด และมักต้องให้ฮอร์โมนเออริโทรพอยเอตินร่วมด้วยเสมอ
สำหรับการรักษาโรคไตวายระยะสุดท้ายนั้นหากเปรียบร่างกายคนเราเป็นเหมือนเรือทั้งลำ ไตเป็นส่วนท้องเรือ เมื่อนำเรือลำนี้ไปลอยในสระน้ำซึ่งเป็นน้ำเน่าเสีย ร่างกายคนที่ไตทำงานปกติเปรียบเสมือนเรือที่ท้องไม่มีรูรั่ว น้ำเน่าก็จะไม่สามารถซึมเข้ามาในตัวเรือ เมื่อไตเริ่มทำงานผิดปกติจึงเริ่มมีของเสียคั่งในร่างกาย เปรียบเหมือนท้องเรือที่มีรูรั่วทำให้มีน้ำเน่าเสียรั่วเข้ามาขังอยู่ในเรือ ในระยะนี้สามารถใช้ขันตักน้ำเน่าเสียออกจากเรือได้ทัน ทำให้เรือไม่จม เปรียบเหมือนการให้ยารับประทานที่สามารถแก้ไขสิ่งทีเกิดจากไตวายเรื้อรังที่มีความรุนแรงไม่มากได้ แต่เมื่อไตมีการเสื่อมสภาพมากขึ้นเหมือนกับท้องเรือมีรูรั่วขนาดใหญ่ขึ้น มีปริมาณน้ำเน่าเสียไหลเข้ามามากขึ้น ไม่สามารถใช้ขันตักน้ำออกได้ทัน จำเป็นต้องใช้เครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำเน่าเสียออกไป คือต้องรักษาโดยการฟอกเลือดหรือล้างไตทางเส้นเลือดโดยอาศัยเครื่องไตเทียม หรือล้างไตทางหน้าท้อง
โดยการรักษาทั้งสองแบบ ไม่ได้เป็นการรักษาที่ต้นเหตุ แต่การรักษาที่ดีที่สุดคือการเปลี่ยนไต หรือการผ่าตัดปลูกถ่ายไตซึ่งควรทำกับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายเท่านั้นดังนั้นหากผู้ป่วยทั้งหลายรู้แล้วอย่างนี้ ควรเร่งป้องกันการลุกลามของไตวายให้เร็วที่สุดไว้ดีกว่า อย่ารอจนเกิดไตวายลุกลามไปเรื่อยๆเลยนะครับ เพราะนั่นหมายถึงอาจจะสายเกินแก้
การป้องกัน
1.ควบคุมการควบคุมน้ำตาลให้ใกล้เคียงปกติให้มากที่สุด
2.การตรวจหาปริมาณไข่ขาวในปัสสาวะ
3.การคุมความดันโลหิตสูง 130/85 mmHg
4.การควบคุมอาหารโปรตีนต่อการเปลี่ยนแปลงโรคไต ถ้าไตยังเสื่อมไม่มากให้รับประทานโปรตีน0.8 ก/กม/วัน ถ้าไตเสื่อมมากขึ้นให้ลดเหลือ 0.6 ก/กม/วัน ซึ่งจะชะลอการเสื่อมของไต
5.การรักษาการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือกรวยไตอักเสบ การเลือกยาปฏิชีวนะต้องระวังอย่าให้มีผลกระทบต่อไต
สนใจสั่งซื้อสินค้าโทร. 089-841-5309 LINE ID :redbike2014
แอดไลน์คลิก:http://line.me/ti/p/Qlm3zx-Y5d
Facebook https://www.facebook.com/ThaiGtfKhonKaen