อาการโรคภูมิแพ้ในเด็ก..เป็นปัญหารบกวนจิตใจของคุณและครอบครัว ใช่หรือไม่
วันนี้ด้วย.. นวัตกรรมอาหารเสริม GT&F สารอาหารคุณค่าเทียบเท่าน้ำนมแม่..ช่วยบำรุงร่างกายฟื้นฟูระบบภูมิต้านทานของร่างกาย ลดอาการภูมิแพ้ชนิดต่างๆ...ได้ผลดีในระยะเวลาอันสั้น ประหยัด ปลอดภัย
ทำการวิจัยโดยคณะแพทย์ใต้หวัน มีการวิจัยและทดสอบผลการบำบัด เช่นเดียวกับการวิจัยผลิตยาทุกประการ มีการทดลองในสัตว์ทดลอง และทดสอบกับผู้ป่วยใน โรงพยาบาลแล้ว
ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดงานวิจัยทางการแพทย์ระดับนานาชาติ 3 ปีซ้อน
ปี 2001 ปี2002 ปี2004
ปี 2001 รางวัลเทคโนโลยีทางการแพทย์แห่งชาติ
ปี 2002 รางวัลชนะเลิศทางเทคโนโลยีชีวภาพและการค้นพบทางการแพทย์
ปี 2004 รางวัลคุณภาพและการรักษาทางการแพทย์ กลุ่มอาหารเสริมสุขภาพ
เชิญชมประสพการณ์จากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ GT&F ในการใช้บำรุงร่างกายฟื้นฟูโรคภูมิแพ้
เด็กหญิงประฑานพร สระบัว มีปัญหาภูมิแพ้ที่ปอดอย่างรุนแรงตั้งแต่แรกเกิด ไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง
ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เมื่อใช้ GT&F พบว่ามีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว และสามารถหายใจได้ด้วยตัวเองใน 8เดือน
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจเกิดในแต่ละบุคคล)
เด็กหญิงปลายฟ้า กับอาการภูมิแพ้ผิวหนัง
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจเกิดในแต่ละบุคคล)
น้องมายด์ กับอาการแพ้ภูมิตัวเอง (เอส แอล อี )
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจเกิดในแต่ละบุคคล)
คุณนุช กับอาการภูมิแพ้อากาศ ฝุ่นและหวัด
ผลลัพท์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
(โปรดสอบถามข้อมูลกับผู้ดูแลเวปไซด์)
สาร GTF ในนมผง GT&F ช่วยฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วยภูมิแพ้ได้อย่างไร
1.มีโปรตีนจากหัวน้ำนม (เป็นโปรตีนที่เข้มข้นมากกว่านมทั่วไปถึง 500 เท่า) เป็นแหล่งโปรตีนที่ให้ร่างกายนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตโปรตีนที่ช่วยสร้างระบบภูมิต้านทานของร่างกาย
2.สาร GTFช่วยส่งเสริมการทำงานของฮอร์โมนต่างๆ ทำงานดีขึ้น ทำให้การดูดซึมสารอาหารและการเผาผลาญสารอาหารในเซลล์ดีขึ้น ทำให้เซลล์ได้รับพลังงานมากขึ้น ส่งผลให้เซลล์ทำงานได้ดีขึ้น เซลล์ต่างๆที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะทำงานดีขึ้นด้วย
3.บรรเทาอาการภูมิแพ้ชนิดต่างๆในเด็กเล็ก และเด็กโตได้ผลดี และเห็นผลเร็วใน 7-15 วัน
4.ช่วยเพิ่มพัฒนาการด้านต่างๆ ทั้งด้านร่างกาย และสมอง ให้แก่เด็กได้อย่างรวดเร็ว
5.ช่วยการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่เซลล์ได้ดีขึ้น จึงช่วยลดโอกาสการขาดสารอาหาร และช่วยพัฒนาการที่รวดเร็วของเด็ก
6.ช่วยลดการพึงยาเคมีที่ใช้รักษาภูมิแพ้ลงได้ จึงช่วยลดพิษที่เกิดจากการใช้ยา ซึ่งมีผลต่อ ตับ และ ไต ได้
*** การชงดื่มที่ให้ประสิทธิภาพดีที่สุดคือการชงโดยใช้น้ำอุ่น ห้ามใช้น้ำร้อนจัด ใช้น้ำปริมาณ 100 cc ****
ผลิตภัณฑ์นมผง GT&F เพื่อการบำรุงร่างกายบรรเทาอาการภูมิแพ้
หยุดภูมิแพ้วันนี้...ก่อนสายเกินแก้
GTF ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
ราคา 2,300 บาท เก็บเงินปลายทาง
แบบผง 1 กล่อง บรรจุ 30 ซอง
แบบแคปซูล 1 กล่อง บรรจุ 60 แคปซูล
ทานได้ 15-30 วัน
เห็นผลบำบัดใน 5-7 วัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อ
โทร.089-6942954 Line ID : gtfhealthy
แอดไลน์คลิก:https://line.me/R/ti/p/%40gtfhealthy
คลิก: Facebook https://www.facebook.com/ThaiGtfKhonKaen
โรคภูมิแพ้คืออะไร
ภูมิแพ้เป็นปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเราที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแปลกปลอมภายนอก เราเรียกสิ่งแปลกปลอมนี้ว่า สารก่อภูมิแพ้ (allergen) ส่วนใหญ่แล้วสิ่งเหล่านนี้ไม่ก่อให้เกิดผลร้ายต่อร่างกายของคนทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่ไวต่อสารก่อภูมิแพ้แล้ว ถ้าสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ก็จะทำให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้ขึ้นได้
ระยะของภูมิแพ้
โดยปกติเราแบ่งภูมิแพ้ออกเป็นสองระยะ ระยะแรกคือเมื่อผู้ป่วยภูมิแพ้สูดดมหรือกินสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกาย
ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเริ่มทำงาน สารก่อภูมิแพ้กลายเป็นวัตถุอันตราย ทำให้ร่างกายผลิตสา lgE(lmmunoglobulin-E) ภูมิคุ้มกันชนิดอิมมูโนโกลบุลิน-อี ระยะนี้ร่างกายจะยังไม่แสดงอาการแพ้ออกมาอย่างชัดเจนระยะที่สองคือเมื่อผู้ป่วยสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เป็นครั้งที่สอง ร่างกายจะผลิตสาร lgE จำนวนมากเพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้ที่รุกล้ำเข้าสู่ร่างกายออกให้หมด ซึ่งระหว่างกระบวนการเหล่านี้สารแอนติบอดี (antibody) จะกระตุ้นเม็ดเลือดขาวชนิดมาสต์เซลล์ (mast cell) ตามอวัยวะต่างๆให้ปล่อยสารเคมีหลากหลายชนิดรวมทั้งฮิสตามีน (histamine) เป็นเหตุให้เกิดอาการคัน บวม แดง จนถึงอาการอักเสบเป็นต้น
ช่วงระยะเวลาจากระยะที่หนึ่งสู่ระยะที่สองกินเวลาสั้นยาวไม่แน่นอนแต่หากเข้าสู่ระยะทีสองแล้ว เมื่อผู้ป่วยสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้อีก ร่างกายก็จะเกิดปฏิกิริยาทันที
จริงหรือที่ภูมิคุ้มกันไม่ดีทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย
คนทั่วไปมักคิดว่า ระบบภูมิคุ้มกันไม่ดีจะทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ง่ายแต่หากจะพูดให้ถูกควรพูดว่า การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอจึงทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้
ประโยชน์ของระบบภูมิคุ้มกัน
คนส่วนใหญ่ต่างก็รู้ว่าภูมิแพ้มีความเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน แต่ไม่ใช่ว่าระบบภูมิคุ้มกันไม่ดีแล้วจะทำให้เกิดอาการแพ้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายคนก็เหมือนกับตาข่ายที่ทำหน้าที่ปกป้องไม่ให้ร่างกายถุกรุกล้ำ จากวัตถุแปลกปลอมภายนอก เช่น แบคทีเรียหรือเชื้อโรค เป็นต้น โดยปกติระบบภูมิคุ้มกันจะสามารถแยกได้ว่าวัตถุใดเป็นอันตรายหรือไม่เป็นอันตรายเพื่อทำการกำจัดต่อไป
หากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอไม่สามารถกำจัดศัตรูออกไปจากร่างกาย ก็จะทำให้เกิดอาการป่วยหากระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถแยกแยะได้ว่าวัตถุใดดีหรือไม่ดี และไม่ทำร้ายภูมิคุ้มกันหรืออวัยวะต่างๆภายในร่างกายก็จะทำให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
รักษาภาวะสมดุล
ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจัดว่าเป็นระบบที่มหัศจรรย์และซับซ้อนการจงใจเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงหรือปล่อยปละละเลยล้วนไม่ใช่สิ่งที่ดี การรักษาภาวะสมดุลต่างหากที่จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน
การป้องกันโรคภูมิแพ้สามารถเริ่มต้นได้ที่อาหารการกิน โดยเลือกกินอาหารที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เช่นน้ำมันที่มีส่วนผสมของกรดไขมันไม่อิ่มตัวประเภทต่างๆ จะช่วยลดอาการภูมิแพ้และการอักเสบได้ ผักผลไม้ยังช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างสารอนุมูลอิสระ แบคทีเรียโปรไบโอติกส์มีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในระบบกระเพาะอาหาร และลำไส้สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพอาจปรึกษาแพยท์หรือเภสัชกร เพื่อเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
โรคภูมิแพ้เกิดจากอะไร
สาเหตุของอาการภูมิแพ้มีทั้งเกิดจากกรรมพันธุ์และการได้รับสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งอาจเป็นจากการหายใจ การสัมผัส การกิน หรือการฉีดเข้าสู่ร่างกาย สารก่อภูมิแพ้ ได้แก่ ฝุ่น ไรฝุ่น แมลงสาบ รังแค ขนสัตว์ ควันบุหรี่ ยา อาหาร หรือแมลงบางชนิด มลพิษในอากาศ และความเครียด
สาเหตุของภูมิแพ้
-กรรมพันธุ์ ภูมิแพ้มีความสัมพันธุ์ใกล้ชิดกับกรรมพันธุ์ ถ้าทั้งพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้ลูกมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ร้อยละ 50
-การสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เป็นเวลานนานๆ กรรมพันธุ์และสุขภาพแวดล้อมสามารถก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ หากอาศัยอยู่ในสถาพแวดล้อมที่มีเกสรดอกไม้ แมลงสาบ ขนสัตว์ ไรฝุ่น หรือสารเคมีเป็นเวลานานๆ จะทำให้เป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย
-ทารกที่ไม่ได้กินนมแม่หรือกินนมผงเร็วเกินไป เด็กทารกควรได้กินนมแม่อย่างน้อย 4 เดือน หากได้กินติดต่อกัน 6-9 เดือนจะดีที่สุด เพราะน้ำนมแม่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของทารกให้แข็งแรง
-อยู่ในที่ที่มีความชื้นสูง สถาพแวดล้อมที่มีอุณภูมิและความชื้นสูงเป็นสถานที่ๆไรฝุ่นและเชื้อโรคต่างๆชอบอาศัยอยู่ ซึ่งทั้งไรฝุ่นและเชื้อโรคเหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุของโรคภูมิแพ้ที่เราพบเห็นได้บ่อย
-ปัญหาทางจิตใจ สถาพจิตใจสามารถส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย การเผชิญกับความเครียดสามารถเปลี่ยแปลงระบบการทำงานของร่างกายในช่วงนั้นได้ อาจทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ไม่อยากกินอาหาร กล้ามเนื้อหดตัว เป็นต้น ผลจาการค้นคว้าพบว่า ความเครียดจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีนออกมา ซึ่งส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันทำให้อาการภูมิแพ้รุนแรงขึ้นได้
ประเภทของสารก่อภูมิแพ้
สิ่งที่ทำให้ร่างกายเกิดอาการแพ้เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ ซึ่งมีมากมายหลายชนิด สารแต่ละชนิอาจถูกจัดเป็นต้นเหตุของภูมิแพ้ในแต่ละคนได้ทั้งสิ้น สารก่อภูมิแพ้แบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ตามวิธีการเข้าสู่ร่างกายคนเราได้ดังต่อไปนี้
-ทางระบบหายใจ มักจะแพร่กระจายอยู่ในอากาศ เข้าสู่ร่างกายคนเราโดยการหายใจและทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ต่างๆกัน ได้แก่ ไรฝุ่น แมลงสาบ แบคทีเรีย ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ ไอ ควัน หมอก น้ำมัน น้ำหอม เป็นต้น
-โดยการสัมผัส มักอยู่ในพืชทีมีพิษ โลหะ สีย้อม เมื่อสัมผัสกับผิวหนังจะทำให้ผิวหนังบริเวณนั้น บวมแดงหรือคัน
-ทางการดูดซึมเข้ากระแสเลือด เช่น ยาฉีด แมลงสัตว์กัดต่อย
-โดยการกิน ได้แก่ นมสด โปรตีน อาหารทะเล ถั่วลิสง เบียร์ เครื่องเทศ เครื่องปรุง ไข่ เป็นต้น
โรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยๆมีอะไรบ้าง
ปฏิกิริยาของโรคภูมิแพ้จะปรากฏตามส่วนต่างๆของร่างกาย หากเกิดขึ้นในโพรงจมูกเรียกว่า โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หากเกิดขึ้นที่หลอดลมเรียกว่า โรคหอบหืด หากเกิดขึ้นที่ผิวหนังเรียกว่า โรคผิวหนังอักเสบ หากเกิดขึ้นที่กระเพาะอาหารและลำไส้เรียกว่า โรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบเนื่องจากการแพ้ โรคภูมิแพ้ที่กล่าวมาข้างต้นแม้จะเกิดขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกายแตกต่างกันไป แต่ปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันจะเหมือนกัน โรคภูมิแพ้ยังรวมถึงการบวมของหลอดเลือด โรคลมพิษ โรคภูมิแพ้ที่เห็นบ่อยๆ ได้แก่
1.โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis)
-อาการของโรค จาม น้ำมูกไหล คัดจมูก คันจมูก คันตามเพดานปากและคันตา
-สาเหตุ โดยมากพบในเด็กอนุบาลถึงเด็กวัยเรียน มักเกิดเมื่อเปลี่ยนฤดูหรืออากาศเปลี่ยน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากแพ้ละอองเกสรดอกไม้ เรียกว่า ไข้ละอองฟาง (hay fever) ถ้าอาการเป็นตลอดปี แพ้ฝุ่น ไรฝุ่น เรียกว่า แพ้อากาศ ผุ้ป่วยจะมีอาการคันที่จมูกและตา ทำให้เกาจมูกและขยี้ตาบ่อยๆ และมักต้องหายใจทางปากเพราะเกิดอาการคัดจมูก ผู้ที่แพ้รุนแรงจะมีอาการตาบวมแดง น้ำตาไหล รู้สึกหูบวม คันคอและน้ำมูกไหลย้อนอยู่ข้างใน เวียนหัว ปวดเมื่อยเนื้อตัว หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงดังหวีดๆคล้ายเป็นหอบหืด อาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อกำจัดสาเหตุของโรคภูมิแพ้ หรืออาจคงอยู่ตลอดไปเพราะต้องสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้อยู่เรื่อยๆ
2.โรคหอบหืดหรือหลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้ (asthma)
-อาการของโรค ไอ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หายใจถี่ หอบเหนื่อย
-สาเหตุ เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย เป็นอาการอักเสบเรื้อรังของทางเดินหายใจที่มีความสัมพันธุ์กับกรรมพันธุ์ มีสาเหตุจากหลอดลมตีบแคบเนื่องจากการอักเสบบวม ทำให้กล้ามเนื้อที่ผนังหลอดลมหดรัดตัวได้ง่ายผู้ป่วยจะหายใจลำบาก หายใจเสียงดัง ไอและแน่นหน้าอก หากรุนแรงอาจเสียชีวิตได้ ส่วนใหญ่มีอาการไอเรื้อรังเป็นหลักโดยเฉพาะตอนกลางคืนตอนเช้ามืดหรือขณะออกกำลังกาย หวัดก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาการกำเริบ สาเหตุอาจเกิดจากฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ การเปลี่ยนอากาศ ความเครียด การออกกำลังกายเกินกำลัง และการติดเชื้อไวรัส
3.โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (allergic dermatitis) หรือ (eczema)
-อาการของโรค ผิวหนังแห้งและมีอาการคันมาก ฝ่าเท้า ข้อมือ ข้อศอก ข้อพับ แขนขา และรอบๆ คอ ดวงตา เกิดอาการคันและบวมแดง
-สาเหตุ โรคผิวหนังอักเสบพบบ่อยในเด็ก แบ่งเป็นสองชนิดคือ ผื่นแพ้จากการสัมผัส เกิดกับคนที่แพ้สารระคายเคือง เช่น เครื่องสำอาง ผงซักฟอก แสงแด เป็นต้น และผื่นแพ้จากรรมพันธุ์ เกิดในผู้ทีมีประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคหอบหืด ไข้ละอองฟาง หรือลมพิษ
4.โรคลมพิษ (Urticaria)
-อาการของโรค มีตุ่มสีชมพูขนาดแตกต่างกันขึ้นตามผิวหนังและมีอาการคันอย่างมาก
-สาเหตุ โรคนี้เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย เมื่ออาการกำเริบจะมีตุ่มสีชมพูขนาดแตกต่างกันและมีอาการคันขึ้นตามผิวหนัง จะขยายเป็นวงกว้างหากผู้ป่วยเกา อาจทำให้หายใจลำบาก ปวดท้อง ท้องเสีย ข้อบวมปวด บวมตามร่างกาย
มีไข้ คลื่นไส้ หรือความดันอาจลดลงจนช๊อกได้ ระยะกำเริบของโรคแตกต่างกันตามบุคคล มีทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรังสาเหตุมาจากการแพ้อาหาร ถูกพิษแมลงสัตว์กัดต่อย สัมผัสกับพืชมีพิษ การใช้ยาบางชนิด ความเย็น แสงแดด หรือโรคติดเชื้อ
5.เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic conjunctivitis)
-อาการของโรค ตาบวมแดง คันเคืองตา กระพริบตาบ่อย น้ำตาไหล
-สาเหตุ โรคนี้มักเกิดกับคนอายุต่ำกว่า30ปี เมื่ออาการกำเริบเยื่อบุตาขาวจะกลายเป็นสีชมพูเพราะเลือดคั่งหรืออาจกลายเป็นสีเหลืองเพราะน้ำคั่ง คันตา มีของเหลวไหลออกจากดวงตา หากรุนแรงอาจทำให้เชื้อโรคสแตฟิโลค็อกคัสรุกล้ำเข้าไปจนถึงกระจกตา มีผลต่อการมองเห็น เด็กที่มีอาการแพ้อากาศหอบและผิวหนังอักเสบมักเป็นโรคนี้ด้วย สาเหตุเกิดจากการได้รับสารก่อภูมิแพ้ เช่น เกสรดิกไม้ ฝุ่น ควันบุหรี่ หรือจจากการติดเชื้อโรค
สนใจสั่งซื้อสินค้าโทร. 089-841-5309 LINE ID :redbike2014
แอดไลน์คลิก:http://line.me/ti/p/Qlm3zx-Y5d
คลิก: Facebook https://www.facebook.com/ThaiGtfKhonKaen